ทำความรู้จัก GMP: ทำไม "พื้น" ถึงสำคัญ?
GMP (Good Manufacturing Practice) คือหลักเกณฑ์และข้อกำหนดพื้นฐานที่จำเป็นในการผลิตและควบคุมคุณภาพ เพื่อให้ผู้ผลิตสามารถผลิตอาหารหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย ป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดกับผู้บริโDภค
โดยหนึ่งในข้อกำหนดหลักของ GMP จะเน้นเรื่อง โครงสร้างและอาคารสถานที่ผลิต ซึ่ง "พื้นโรงงาน" ถือเป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเป็นพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรก การปนเปื้อน และการทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น พื้นโรงงาน GMP จึงต้องมีคุณสมบัติพิเศษกว่าพื้นโรงงานทั่วไป

คุณสมบัติหลักที่ "พื้นโรงงาน GMP" ต้องมี
เพื่อให้ผ่านมาตรฐานสากล พื้นที่ใช้ในการผลิตตามหลัก GMP ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้:
ไร้รอยต่อ (Seamless): พื้นต้องเรียบเนียนเป็นผืนเดียวกันทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีร่องหรือรอยแตกซึ่งจะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นผง สิ่งสกปรก และเชื้อโรค ทำให้ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
ไม่ดูดซับน้ำและทนความชื้น: วัสดุปูพื้นต้องมีคุณสมบัติกันซึม เพื่อป้องกันน้ำหรือของเหลวซึมลงไปใต้พื้นผิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรีย
ทนทานต่อสารเคมีและกรด-ด่าง: สามารถทนทานต่อน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง และทนต่อสารเคมีที่อาจหกรั่วไหลในสายการผลิตได้โดยไม่เสียหาย
ทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวต้องเรียบ ไม่เป็นรูพรุน ทำให้สามารถขจัดคราบสกปรกและฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แข็งแรง ทนทาน: ต้องสามารถรับน้ำหนักเครื่องจักร รถ Forklift หรือการสัญจรภายในโรงงานได้ดี ไม่แตกร้าวง่าย
ไม่เป็นพิษและปลอดภัย: วัสดุที่ใช้ต้องปลอดภัย (Non-toxic) และไม่มีกลิ่นฉุนรบกวนกระบวนการผลิต
วัสดุยอดนิยมสำหรับพื้นโรงงาน GMP: Epoxy vs PU แบบไหนดีกว่ากัน?
เมื่อพูดถึงวัสดุสำหรับทำพื้นโรงงานให้ได้มาตรฐาน GMP สองตัวเลือกที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมมากที่สุดคือ พื้น Epoxy และ พื้น PU (Polyurethane) ซึ่งทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติที่เหมาะสม แต่ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป
1. พื้นอีพ็อกซี่ (Epoxy Self-Leveling)
เป็นพื้นโพลีเมอร์ชนิดหนึ่งที่โดดเด่นเรื่องความแข็งแกร่งและทนทานสูง มักถูกเลือกใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปจนถึงโรงงานที่ต้องการความสะอาดสูง
จุดเด่น:
ความแข็งแกร่งสูง: ทนทานต่อการขีดข่วน รับน้ำหนักเครื่องจักรและรถ Forklift ได้ดีเยี่ยม
ทนทานสารเคมี: ทนต่อสารเคมีและน้ำมันได้ดี
พื้นผิวเรียบเงางาม: ให้ความสวยงาม ทำความสะอาดง่ายมาก
ไร้รอยต่อ: ตอบโจทย์มาตรฐาน GMP ได้อย่างสมบูรณ์
เหมาะกับ: พื้นที่ฝ่ายผลิตทั่วไป, โกดังเก็บสินค้า, พื้นที่แห้งที่ไม่ต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิกะทันหัน
2. พื้นโพลียูรีเทน (PU Self-Leveling)
เป็นวัสดุที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ที่เหนือกว่า Epoxy โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและยา ทำให้ได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับโรงงาน GMP
จุดเด่น:
ยืดหยุ่นสูง: ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลันได้ดีเยี่ยม (ตั้งแต่ -40°C ถึง 120°C) ไม่หดหรือขยายตัวจนแตกร้าว
ทนความชื้นและสารเคมีดีเยี่ยม: ทนทานต่อกรดอินทรีย์ (เช่น กรดนม, กรดไขมัน) และสารเคมีต่างๆ ได้ดีกว่า Epoxy
ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย: มีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค
ไร้รอยต่อและทำความสะอาดง่าย: เป็นไปตามข้อกำหนดของ GMP และ HACCP
เหมาะกับ: โรงงานอาหารและเครื่องดื่ม, โรงงานยา, ห้องเย็น, พื้นที่ล้างทำความสะอาด, หรือพื้นที่ที่ต้องเจอกับน้ำร้อนและสารเคมีเป็นประจำ
สรุป: หากเป็น โรงงาน GMP ทั่วไป ที่เน้นพื้นที่แห้ง พื้น Epoxy ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและได้มาตรฐาน แต่ถ้าเป็น โรงงานอาหาร, ยา, หรือห้องเย็น ที่ต้องเจอความชื้น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และสารเคมีเฉพาะทาง พื้น PU คือคำตอบที่ดีที่สุด
สรุป
การลงทุนกับ พื้นโรงงาน GMP ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้โรงงานของคุณผ่านการรับรองมาตรฐานสากลเท่านั้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพการผลิต ลดความเสี่ยงการปนเปื้อน สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย และส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ขององค์กรอีกด้วย
การเลือกใช้วัสดุที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็น พื้น PU หรือ พื้น Epoxy ควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานของพื้นที่เป็นสำคัญ เพื่อให้ได้พื้นที่ตอบโจทย์และทนทานที่สุด
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งพื้นโรงงาน GMP/HACCP ที่มีประสบการณ์และเข้าใจในมาตรฐานอย่างแท้จริง ยินดีให้คำปรึกษาฟรี! ติดต่อเราได้ที่
SOV Epoxy Corporation Co., Ltd.
รับติดตั้ง งานพื้น Epoxy ครบวงจร
สนใจติดต่อ โทรสายด่วน 088-033-9999
บริษัท เอสโอวี อีพ็อกซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด
222/1 ถ.สามวา แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.10510
โทร. 088 033 9999
Facebook : SovEpoxy
www.sov-epoxy.com
www.epoxy.co.th